มีเงิน 3,000 บาทนั่งรถไฟไปเที่ยวปีนัง มาเลเซีย แบบสบายใจ !!!
( สามพันนี่ไม่รวมค่าเดินทางที่เราต้องจองล่วงหน้าน๊า )
เที่ยวปีนัง – หาดใหญ่ 5 วัน 4 คืน ไม่ต้องใช้เงินมาก !!!
+++
มีงบน้อยก็เที่ยวปีนัง มาเลเซียได้ … มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ดูด้วยนะ !!!
ที่เขตเมืองเก่าอย่างจอร์จทาวน์ที่ขึ้นชื่อเรื่องเมือง Street Art ไปเดินเล่นถ่ายรูปชิวๆ หาของกิน นอนโฮสเทลแบบไม่แพง
+++
ทริปนี้จะเน้นนั่งรถไฟน๊า เริ่มต้นจากการนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปลงที่หาดใหญ่ นั่งรถนอนชั้นสอง ขบวนใหม่ของการรถไฟ
และนั่งรถไฟจากหาดใหญ่ไปที่บาดังเดซาร์ มาเลเซีย ต่อด้วยนั่งรถไฟความเร็วสูงไป บัตเตอร์เวิธ ข้ามเรือเฟอรี่ไปยังเกาะปีนังจุดหมายปลายทางของเรา !!!
+++
ชิวๆกับเมืองสตรีทอาร์ท สี่วันสองคืน ถ่ายรูปเก๋ๆตามถนน ตามซอย นอนโฮสเทลแบบราคาไม่แพง แล้วเดินหาของกินกลางคืน
+++
นั่งรถเมล์ไป ขึ้นชมวิวที่ปีนังฮิล เดินเล่นชมตามจุดต่างๆ หาของอร่อยๆกิน
+++
เดินทางกลับมาเที่ยวที่หาดใหญ่ต่ออีกหนึ่งคืน เดินชอปปิ้งที่ตลาดกิมหยง หาอะไรอร่อยๆกินใจกลางเมือง แล้วนอนโฮสเทลหาดใหญ่
+++
เดินทางกลับโดยเครื่องบิน ตั๋วโปรถูก 400 บาท ของ AirAsia บินตรงหาดใหญ่ – ดอนเมือง
+++
วางแผนการเดินทาง
- จองตั๋วรถไฟขาไป กรุงเทพ – หาดใหญ่ จองได้ที่ http://www.railway.co.th
ขบวนรถด่วนพิเศษ “ทักษิณารัถย์” ที่ 31 ชั้นสองราคา เตียงล่าง 1,105 บาท เตียงบน 1,005 บาท
โดยเราจะเดินทางไปที่ลงหาดใหญ่แล้วต่อไปปีนัง

- จองตั๋วเครื่องบินขากลับ หาดใหญ่ – กรุงเทพฯ https://www.airasia.com โดยที่ราคาแล้วแต่โปรโมชั่นและช่วงราคาเวลานั้นๆ เราจองได้ในราคา 412.30 บาท
เริ่มต้นจากการเดินทางด้วยรถไฟจากกรุงเทพ นั่งรถไฟขบวน 31 ด่วนพิเศษ กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ โดยรถจะออกเวลาประมาณ 14.45 และไปถึงเช้าที่หาดใหญ่ ประมาณ 6 โมงเช้า
เรานั่งรถชั้น 2 รถนอน มีเตียงบนและล่าง ท้ายขบวนจะมีห้องน้ำ 2 – 3 ห้อง โดยราคาอยู่ที่ ตียงล่าง = 1,105 บาท / เตียงบน = 1,005 บาท
และสามารถจองหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.railway.co.th/main
และขบวนจะไปถึงสถานีหัวหินประมาณ 18.00 กว่า จะเห็นสถานีรถไฟหัวหินที่สวยงามด้วย ตอนรถจอดจะมีแม่ค้าเอาข้าวมาขาย แต่จะไม่ขึ้นมาที่บนขบวน แนะนำว่าถ้าใครอยากกินให้ไปดูตรงประตูนะ จะมีแม่ค้ายืนรอขาย ที่สำคัญน่าจะขายถูกกว่าบนขบวนด้วย
และหลังจากทานข้าวเสร็จพนักงานจะเริ่มมาทยอยปูเตียงให้ผู้โดยสาร บางคนก็เริ่มนอน เราเองก็นอนเล่นไปเรื่อยๆ
บริเวณที่นั่งรถไฟก็จะมีช่องวางขวดน้ำ โต๊ะอ่านหนังสือแบบพับ และมีปลั๊กไฟเอาไว้ให้สำหรับชาร์ทไฟด้วยนะ
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟหาดใหญ่ ถ้าเราจะไปปีนังต่อเลย ก็จะมีรถรอบเช้า ชุมทางหาดใหญ่ – บาดังเบซาร์ เวลา 07:30 น. หรือใครที่ยังไม่อยากไปก็จะมีรอบบ่าย เวลา 13:05 น.
ค่ารถไฟคนละ 50 บาท
แนะนำว่าถ้าไม่อยากให้ไปถึงปีนังค่ำให้ไปรอบเช้า เพราะที่นู่นเวลาจะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชม เพราะถ้าไปรอบบ่ายจะถึงปีนังค่อนข้างเย็น
เราต้องนั่งรถไฟจากหาดใหญ่ประมาณ 1 ชม เพื่อไปที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย นั่นคือบาดังเบซาร์นั่นเอง เพื่อนั่งรถไฟความเร็วสูงไปยังบัตเตอร์เวอร์ธ แล้วข้ามไปยังเกาะปีนัง
โดยจะต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านบาดังเบซาร์ ตรงนี้อย่าลืม Passport นะ
และหลังจากการผ่าน ตม แล้วเราก็จะใช้เวลาในการเดินทางไปยังปีนังประมาณ 1-2 ชม
++++
สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ล่วงหน้าที่จะขึ้นที่ PADANG BESAR
ได้ที่ http://www.ktmb.com.my/ktmb_ui
หน้าตารถไฟบ้านเรา เป็นรถแบบธรรมดา พัดลม ถ้าไปตอนบ่ายก็ค่อนข้างร้อนอยู่ แนะนำว่าซื้อน้ำดื่มติดมือไปด้วย
นั่งไปประมาณ 1 ชม ชิวๆ ชมวิวก็ได้อีกบรรยากาศ บนรถก็จะมีทั้งคนมาเลเซียและคนไทย
เมื่อไปถึง ก็จะต้องผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองของไทย และมาเลเซีย เดินตามคนส่วนมากไปและรอเข้าคิวได้เลย จะมีประมาณ 3 แถว ไม่ต้องเขียนใบอะไร แค่ยืนรอเตรียมพาสปอร์ทเท่านั้น
ผ่าน ตมไทย เสร็จแล้ว จะมีคนไทยมาคอยให้แลกเงิน ใครที่ไม่ได้แลกมา แนะนำให้แลกตรงนี้เลยนะ
และเมื่อผ่าน ตม ของฝั่งมาเล ก็จะมีการสแกนกระเป๋า
เราต้องเดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อซื้อตั๋วรถไฟของมาเล
( ในรูปจะเป็นตั๋วขากลับน๊า แต่หน้าตาแบบเดียวกัน ราคาเดียวกันเลย ) ราคาคนละ 11.40 rm
และเมื่อซื้อตั๋วเสร็จก็เดินลงมารอรถได้เลย ถ้ารอบบ่ายคนก็จะเยอะหน่อย แนะนำอีกว่าให้ยืนรอใกล้ๆขบวนรถถ้าใกล้ถึงเวลา เพราะทุกคนจะแย่งกันขึ้นรถเพื่อหาที่นั่ง ใช้เวลาประมาณ 1 ชมกว่า ถ้ายืนก็เหนื่อยอยู่
เมื่อมาถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ เราจะต้องไปที่ ชัตเตอร์บัสฟรี จะอยู่หน้าสถานีรถไฟเลยเลย เป็นคิวรถบัส จะมีรถบัสฟรีไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่
ให้เราขึ้นรถฟรีไปได้เลย
พอลงจากรถบัสก็จะมีป้ายบอกทางไปขึ้นเรือ คนส่วนมากก็เดินตามๆกันไป เราต้องซื้อตั๋วขึ้นเรือ แลขึ้นเรือข้ามไปยังปีนัง
ค่าเรือเฟอรี่ คนละ 1.20 rm
พอลงจากท่าเรือ ถ้ามาถึงตอนค่ำ จะไม่สามารถซื้อซิมการด์ได้ เพราะที่นี้จะไม่ขายตอนเย็นหรือตอนกลางคืน
ถ้าใครไม่ได้ซื้อซิมมาก่อนหรือไม่ได้เปิดโรมมิ่ง และไม่ได้ดูแผนที่มาก็จะงงๆหน่อย แล้วก็จะเดินไกล แนะนำว่าเตรียมตัวมาให้พร้อม
เราเลือกพักที่ย่าน George Town ที่ใครๆที่มาต้องพักย่านนี้
หลังจากที่เราเดินตามหาที่พัก ก็แอบๆหลงนิดหน่อย แต่ก็มาถึงจนได้
แต่โรงแรมเราไม่ได้จองล่วงหน้า มาหาเอาอีกที
ซึ่งโรงแรมที่เราพักขอไม่บอกชื่อแล้วกันเพราะไม่โอเคเท่าไหร่ เพราะเหนื่อยเลยตกลงเอาแบบไม่โอเค แต่เราจะแนะนำคืนที่ 2 ให้
พอเหนื่อยแล้วก็ต้องมาตามหาของกิน ร้านอาหารที่เราจะแนะนำคือที่อยู่ในรูปซ้ายบน ชื่อร้านว่า Yeap Noodles รสชาติอาหารถ้าสั่งเมนูไหนที่รสจัด ก็ถือว่าจัดจ้านจริงๆ คนไทยอาจจะชอบร้านนี้ และมีเมนูให้เลือกมาก ราคาก็จะแพงกว่าข้างทางนิดหน่อย แต่ถ้าเทียบกับบ้านเราก็ราคาปกติ
หมดค่าอาหารไป 23.60 rm
แผนที่ : https://goo.gl/maps/gZESsn6dFDD2
ค่าใช้จ่าย
ค่าโรงแรม 75 rm
ค่าไม้จุ่มแบบในรูปล่างซ้าย 3.20 rm
ค่าเบียร์สองขวด carlsberg 25.60 rm
รวมค่าใช้จ่ายสองคนวันแรก
เงินไทย 100 บาท
เงินมาเล 152.60 rm เป็นเงินไทยประมาณ 1,358 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันแรกเป็นเงินไทย 1,458 บาท
หลังจากนอนพักผ่อน ตื่นมาเกือบสาย เราก็เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม แล้วมาเดินหาอะไรกิน เจอร้านกาแฟ The Mugshot Cafe ร้านกาแฟที่มีที่พักอยู่ด้วย และมีขายขนมปัง หรือพวกเบเกอรี่ แถมแบบอบเองจากเตาด้วย ใครชอบกินพวกขนมปัง ครัวซอง พิซซ่า แนะนำร้านนี้เลย ส่วนกาแฟก็รสชาติอร่อย
แผนที่: https://goo.gl/maps/1aEq4EGhLfQ2
มาถึงที่พักคืนที่สอง ที่เราอยากนำเสนอ ก่อนอื่นแรกยังเช็คอินไม่ได้ แต่สามารถเอากระเป๋ามาฝากได้แล้วไปเดินเล่นก่อนค่อยกลับมา
โรงแรมหรือโฮสเทลนี้ชื่อว่า Old Penang Guesthouse เป็นสไตล์ตึกเก่าแต่มีสเน่ห์ ซึ่งราคาไม่แพงมาก เราเลือกพักเป็นห้องแอร์ ห้องน้ำรวม อยู่ในซอยหรือถนนที่เรียกได้ว่าใกล้ของกินและร้านเหล้า เดินทางสะดวกดี
ค่าที่พัก 93 rm
เริ่มการทัวร์ George Town เมืองสตรีทอาร์ท
ตามบ้านเรือนอาคารก็จะมีจุดให้ถ่ายภาพสวยๆ เกือบทุกที่
Street Art – ” Boy on Motorbike “ ภาพเด็กนั่งบนมอเตอร์ไซค์ จุดนี้ใครมาปีนังแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะถ่าย
ถ้าใครกลัวมาไม่ถูกให้เดินตามแผนที่นี้ : https://goo.gl/maps/q7gKwGDcgN42
” Kids on bicycle “ ภาพเด็กนั่งบนจักรยาน by Ernest Zacharevic อีกจุดที่เป็นไฮไลท์ของปีนัง เดินมาจากภาพแรกไม่ไกล
แผนที่ : https://goo.gl/maps/SQ6n8UkXRY32
Chew Jetty ชุมชนบ้านไม้ริมทะเล และหมู่บ้านชาวประมง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหาร ร้านค้า ขายของฝากทีระลึก ใครที่ชอบชอปปิ้งต้องมาเดินที่นี่ แล้วได้ชมวิว ถ่ายภาพด้วย
แผนที่ : https://goo.gl/maps/jVjNKUwtXm92
Tan Jetty สะพานไม้ของชาวบ้านที่ยื่นออกไปริมทะเล และมีบ้านไม้หลังสีแดงๆ ตั้งอยู่สวยงาม เป็นอีกจุดที่น่าแวะมาถ่ายภาพสวยๆ ชมวิวดีๆ
แผนที่ : https://goo.gl/maps/hUi4adZub4S2
หลังจากถ่ายภาพที่ท่าเรือเสร็จแล้ว เราก็จะเดินทางไปยังปีนังฮิล จุดชมวิวของเมือง
โดยนั่งรถเมล์สาย 204 ไปยังปีนังฮิล เรานั่งรถที่ Bus Terminal ใกล้กับท่าเรือเฟอรี่นั่นเอง
ไม่ต้องกลัวหลงเพราะถ้านั่งรถสายนี้จะไปสุดสายที่ปีนังฮิล โดยค่ารถอยู่ที่คนละ 2 rm
และตอนกลับก็นั่งสายนี้มาได้เลยราคาเดิม
แผนที่ : https://goo.gl/maps/WWJQQMC8aqC2
นั่งรถรางแบบธรรมดาขึ้นไปยังปีนังฮิลล์ ไปกลับ ราคา 30 rm
ขึ้นมาแล้วชมวิว มองเห็นเมืองปีนัง และทะเล รวมไปถึงฝั่งบัตเตอร์เวอร์ธ
มี sky wall ยื่นออกไปให้ชมวิวด้วยนะ
แวะกินมื้อเย็น เรียกว่าอะไรไม่รู้อ่านไม่ออก แต่ก็เหมือนผัดหมี่ ผัดไทยอะไรประมาณนี้ ซื้อ 2 ร้านราคาต่างกัน 7 + 8 rm
พอเริ่มค่ำ ก็จะมองเห็นไฟที่ข้างล่างเมือง สวยไปอีกแบบ และเราก็เดินทางกลับที่พักไปพักผ่อน
รวมค่าใช้จ่ายสองคนวันที่สอง
เงินมาเล 335.4 เป็นเงินไทยประมาณ 3,163 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันที่สองเป็นเงินไทย 3,163 บาท
วันถัดมาเราต้องเดินทางกลับไทย หลังจากที่อยู่ปีนังมาสองคืนแล้ว
เราเรียก Grab Car ให้ไปส่งที่ท่าเรือ โดยที่เรียกผ่านแอพ ราคาไม่แพงด้วย ราคา 6 rm
ขากลับนั่งเรือข้ามฝั่งกลับไปที่บัตเตอร์เวอร์ธ โดยขากลับจะฟรีไม่เสียเงิน และรสชัตเตอร์บัสก็เหมือนกัน
ใครที่เดินมาท่าเรือกลัวหลงก็ให้มาตามแผนที่นี้ : https://goo.gl/maps/EaLPneToUfv
หลังจากที่นั่งรถไฟจากบัตเตอร์เวอร์ธมาถึงบาดังเบซาร์แล้ว ก็ทำการซื้อตั๋วรถไฟไทย 50 บาท/คน แล้วนั่งรอเวลา
โดยเราจะต้องรอให้รถขบวนรอบบ่ายโมงมาถึงที่บาดังเบซาร์ประมาณบ่ายสอง และทำการตรวจคนเข้าเมืองของผู้โดยสารที่มาด้วยให้หมดก่อน เราถึงจะทำการปั้ม ตม และขึ้นรถไฟขบวนนั้นกลับไปยังหาดใหญ่ได้ ตรงนี้ก็นั่งรอนานหน่อย
ใครที่จะเดินทางกลับหาดใหญ่แล้วไปกรุงเทพเลยก็แนะนำว่าให้จองรอบเย็นๆหน่อย หรือค่ำๆไปเลยจะได้ไปต้องรีบมาก
เราจะนอนที่หาดใหญ่อีกหนึ่งคืน เมื่อมาถึงสถานีรถไฟหาดใหญ่ เราก็เดินมายังโฮสเทลที่จองไว้ อยู่ใกล้กับห้างโอเดี้ยน และเดินไปตลาดกิมหยงไม่ไกลด้วย เรียกว่าเดินทางสะดวกมากๆ เดินง่าย
โฮสเทลชื่อว่า We Hostel มีห้องพักแบบรวม แบบส่วนตัวให้เลือก ราคาประหยัด ห้องพักสะอาด บริการดี แถมมีห้องน้ำเยอะมาก ที่สำคัญใกล้ 7/11 มากๆ
สามารถโทรไปจองได้ที่ 087 595 3944
หรือไปที่เพจ https://www.facebook.com/wehostelhatyai
แผนที่ : https://goo.gl/maps/YFQntic5Eex
มาหาดใหญ่ก็ต้องซื้อของฝากที่ตลาดกิมหยง แล้วเดินหาของกินอร่อยๆ
กินข้าวที่ร้านในรู แผนที่ : https://goo.gl/maps/JanXzwJMqU92
กินบิงซูที่ร้าน Snow Wish Hatyai แผนที่ : https://goo.gl/maps/FGsq34jPAMo
รวมค่าใช้จ่ายสองคนวันที่สาม
เงินไทย 466 บาท
เงินมาเล 45.8 rm เป็นเงินไทยประมาณ 407 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันแรกเป็นเงินไทย 873 บาท
ร้านอาหารระแวกนี้ แวะทานลองท้องก่อนเดินทางกลับ
อีกวันที่เราต้องเดินทางกลับ ก็เรียกใช้บริการรถ Taxi ไปส่งที่สนามบินหาดใหญ่ ราคา 250 บาท
จะมีจุดบริการ Taxi อยู่ด้านข้างห้าง
#รวมค่าใช้จ่ายสองคนวันที่สี่
เงินไทย 450 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันแรกเป็นเงินไทย 450 บาท
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
#รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 5,944 บาท สำหรับ 2 คน
โดยที่เราลงเงินไปคนละ 3,000 บาท
มีเงินกองกลาง 6,000 บาท
เป็นการใช้เงินคร่าวๆจากทริปที่เราไปปีนังครั้งนี้ ซึ่งยอดเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามการกินหรือที่พัก อันนี้เป็นแค่แนวคร่าวๆน๊า
และเราก็เดินทางกลับจากสนามบินหาดใหญ่ด้วยสายการบิน AirAsia โดยที่เราได้ตั๋วโปร 400 บาท
จบแล้วสำหรับทริปเที่ยวปีนังครั้งนี้ การเดินทางง่ายๆ ใช้เงินไม่มาก คราวหน้าเราจะนำทริปอื่นๆมาแนะนำกันอีกครับ