เที่ยวฝรั่งเศสแบบหวานๆ กับ 10 สถานที่โรแมนติก

ฝรั่งเศสคือประเทศในฝันของหลายคู่รักเพราะนอกจากเป็นประเทศแห่งแฟชั่นและน้ำหอมแล้วยังเป็นประเทศที่มีบรรยากาศโรแมนติกอีกด้วย ดังนั้นหากใครคิดตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสเพื่อสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกเราขอแนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสกับ https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-france เพราะว่าเพื่อนๆ จะได้ตั๋วราคาดี ไม่มีค่าธรรมเนียมการจอง รับรองว่าคุณแฟนจะต้องรักเรามากขึ้นเพราะเราช่วยประหยัดงบการเดินทางให้เค้าด้วย สำหรับที่เที่ยวบรรยากาศโรแมนติกในฝรั่งเศสมีที่ไหนบ้างตามเรามาดูเลย

จองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสกับ Traveloka คลิกที่นี่

 1. หอไอเฟล (Eiffel Tower)

หอไอเฟลสัญลักษณ์ประจำประเทศฝรั่งเศสที่เหล่าคู่รักต้องแวะไปเก็บภาพความหวานกัน หลายๆ คู่ที่กำลังจะแต่งงานก็มักเลือกหอไอเฟลเป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย หอไอเฟลสร้างด้วยโครงเหล็กสูง 324 เมตร หรือเท่ากับตึก 81 ชั้น ซึ่งเพื่อนๆ สามารถขึ้นไปชมวิวสวยๆ ด้านบนได้ด้วย ส่วนด้านล่างเป็นจุดขายของที่ระลึกและมีนิทรรศการให้เราได้ชม ตอนกลางคืนมีการเปิดไฟอย่างสวยงามเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกมากขึ้นไปอีก หากเพื่อนๆ มีโอกาสไปเที่ยวเราแนะนำให้ไปตอนเย็นๆ แล้วอยู่ยาวไปถึงตอนกลางคืนเพื่อชมแสงไฟสวยๆ กัน 

แผนที่ : https://goo.gl/maps/UA86UTLdHDWj4sHL9 

เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00 – 23.00 น. ยกเว้น 15 มิถุนายน – 1 กันยายน เปิดเวลา 09.00 – 24.00 น. 


 

2. พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace)

พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังสุดยิ่งใหญ่และอลังการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO มีการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบคริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ด้วยหินอ่อนสีขาว ภายในแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ มากถึง 700 ห้อง เก็บสะสมรูปภาพ 6,123 ภาพ และงานแกะสลักจากศิลปินชื่อดังนับหมื่นๆ ชิ้น มีห้องกระจกที่ใช้เป็นห้องลงนามในการทำสัญญาสงบศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ทุกส่วนของพระราชวังถูกตกแต่งอย่างหรูหรา พื้นที่ด้านนอกมีสวนแวร์ซายที่ยิ่งใหญ่และงดงาม ออกแบบโดยเลอโนทด์ นักแต่งสวนชื่อชื่อดังของโลก ซึ่งสวนแห่งนี้จะมีการตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้ตามฤดูกาล 

แผนที่ : https://goo.gl/maps/E3nm3G6VdjFHc2H38 

เวลาเปิดปิด : พระราชวังเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.30 น. (เฉพาะเดือนเมษายน – ตุลาคม เปิดเวลา 09.00 – 18.30 น.) สวนแวร์ซาย เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น. (เฉพาะเดือนเมษายน – ตุลาคม เปิดเวลา 09.00 – 18.30 น.)

ซื้อบัตรเข้าชมพระราชวังแวร์ซายกับ Traveloka คลิกที่นี่


3. แม่น้ำแซน (Seine River)

แม่น้ำแซนเป็นแม่น้ำสายโรแมนติกที่เหมาะกับการพาคนรักมาล่องเรือรับประทานอาหารและดื่มด่ำความงามของเมืองปารีส ตลอดสองข้างถนนที่เรือล่องไปเราจะได้เห็นสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ปราสาทนอทเทอร์ดัม เป็นต้น พร้อมกับการฟังบรรยายเรื่องราวของแม่น้ำสายสำคัญแห่งนี้และประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ ในปารีสอีกด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะล่องเรือตอนกลางวันหรือกลางคืนตามแต่บรรยากาศที่เราชื่นชอบ 

แผนที่ : https://goo.gl/maps/jwvWmKf2LA3k73416 

บัตรล่องเรือบาโตปาริเซียงชมวิวในแม่น้ำแซนกับ Traveloka คลิกที่นี่


4. ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) 

อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปพรีเวดดิ้วยอดฮิตของเหล่าคู่รักก็คือประตูชัยฝรั่งเศสที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เพื่อสดุดีเหล่าทหารฝรั่งเศสที่ร่วมรบในสงครามปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียนจนได้รับชัยชนะ บริเวณประตูมีรายชื่อของเหล่าทหารจารึกไว้รวมถึงมีรูปปั้นแกะสลักของบุคคลสำคัญในยุคนั้นที่ใส่ชุดเกราะ สวยงามตามรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิกที่สร้าจากหินอ่อน ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นสุสานของทหารนิรนาม ซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมวิวโรแมนติกของเมืองปารีสบริเวณด้านบนได้ด้วย 

แผนที่ : https://goo.gl/maps/66wELJit9yAKXfkT8 

เวลาเปิดปิด : 2 มกราคม – 31 มีนาคม และ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 22.30 น. 

1 เมษายน – 30 กันยายน เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 23.00 น.

ปิด 1 มกราคม, 1 พฤษภาคม, 8 พฤษภาคม เฉพาะช่วงเช้า, 14 กรกฎาคม, 11 พฤศจิกายน เฉพาะช่วงเช้า และ 25 ธันวาคม

ซื้อบัตรประตูชัยฝรั่งเศสแบบไม่ต้องต่อคิวและขึ้นไปบนดาดฟ้ากับ Traveloka คลิกที่นี่


5. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแห่งนี้มีบรรยากาศที่โรแมนติกทั้งด้านนอกและด้านในควรค่าแก่การพาคนรักไปเที่ยวเป็นอย่างมาก ภายในเป็นที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะทั้งภาพวาดและประติมากรรมที่สำคัญของโลก เช่น ผลงานของ Leonardo da Vinci, ภาพโมนาลิซ่า, The Dying Slave รูปสลักหินอ่อนของ Michelangelo และอื่นๆ กว่า 40,000 ชิ้นที่นำมาจัดแสดงให้เราได้ชม ทุกผลงานล้วนมีเรื่องราวและมีความล้ำค่ายากที่จะหาราคามาเปรียบเทียบได้

แผนที่ : https://goo.gl/maps/txH82xoJknJQS5NP6 

เวลาเปิดปิด : วันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันเสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.00 น. / วันพุธและวันศุกร์ เวลา 09.00 – 21.45 น. (ปิดวันอังคาร)



6. วิหารมงแซ็งมีแชล (Mont Saint Michel)

วิหารมงแซ็งมีแชลเป็นมหาวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลชายฝั่งตะวันตกของฝรั่งเศส อยู่ในแคว้น Basse-Normandie ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ด้วยความสวยงามราวกับปราสาทในเทพนิยายและมีความโรแมนติกมากจึงทำให้เพื่อนๆ ไม่ควรพลาดพาคนรักมาเที่ยว โดยเพื่อนๆ สามารถไปเที่ยวที่วิหารแห่งนี้ได้ก็ต่อเมื่อน้ำลดเท่านั้น ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวิหารแห่งนี้ให้เราได้ชมท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของตัวประสาท นอกจากการเที่ยววิหารแล้วเรายังสามารถเดินเล่นบนเกาะซึ่งจะมีร้านค้า ร้านอาหารให้เราได้เลือกช้อป เลือกชิมกันด้วย 

แผนที่ : https://goo.gl/maps/N3yt8sVfqE3nyS7DA 

เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวันยกเว้นวันที่ 1 มกราคม,  1 พฤษภาคม และ 25 ธันวาคม

วันที่ 2 – 31 สิงหาคม เปิดเวลา 9.00 – 19.00 น. เข้าชมครั้งสุดท้ายเวลา 18.00 น.

วันที่ 1 กันยายน – 30 เมษายน เปิดเวลา 09.30 – 18.00 น. เข้าชมครั้งสุดท้ายเวลา 17.00 น.

วันที่ 24 ธันวาคม และ 31 ธันวาคม เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16.00 น.

ซื้อบัตรเข้าชมวิหารมงแซ็งมีแชลกับ Traveloka คลิกที่นี่ 


7. กอลมาร์ (Colmar)

กอลมาร์เป็นเมืองเล็กๆ สุดโรแมนติกในแคว้น Alsace ที่ได้รับฉายาว่าเป็นลิตเติ้ลเวนิส ภายในเมืองๆ นี้มีอาคารบ้านเรือนสีสันน่ารักๆ ตั้งอยู่ริมคลอง แต่ละบ้านมีการปลูกดอกไม้สวยๆ ไว้ริมคลอง เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกให้กับเมืองๆ นี้มากขึ้นไปอีก ซึ่งหลายคู่รักก็มักจะเลือกเมืองๆ นี้เพื่อมาฮันนีมูนและล่องเรือในคลองกัน นอกจากความโรแมนติกของเมืองนี้แล้ว กอลมาร์ยังเป็นเมืองที่ผลิตไวน์รสชาติดีของฝรั่งเศสอีกด้วย

แผนที่ : https://goo.gl/maps/ieJUPrcExrvUtApz8 

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน 24 ชม.


8. ปราสาทช็องบอร์ (Chateau de Chambord)

ปราสาทช็องบอร์ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำลัวร์ที่มีความโอ่อ่าอลังการทั้งภายนอกและภายใน จนได้รับให้เป็นต้นแบบของปราสาทในการ์ตูนเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูร ภายในปราสาทช็องบอร์มีห้องต่างๆ มากกว่า 400 ห้อง มีเตาผิงมากเกือบ 300 เตา รวมถึงผลงานแกะสลักตามจุดต่างๆ มากกว่า 800 ชิ้น ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ฟรองซัวร์ที่ 1 ที่ใช้สำหรับพักร้อนและล่าสัตว์ ซึ่งตัวปราสาทมีความสวยงามไม่เหมือนใครเพราะหอคอยทั้งหมดของปราสาทมีความไม่สมมาตรกัน ทุกๆ มุมของปราสาทแห่งนี้เราสามารถเดินชมและถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่ หากเพื่อนๆ จะเดินให้ครบเราเชื่อว่าอาจต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันเลยก็ว่าได้

แผนที่ : https://goo.gl/maps/F89MLqHB3YYLuai97 

เวลาเปิด – ปิด : วันที่ 30 มีนาคม – 27 ตุลาคม เวลา 09.00 – 18.00 น. / วันที่ 28 ตุลาคม – 29 มีนาคม เวลา 09.00 – 17.00 น.

 

9. โบสถ์แซงท์ชาแปลล์ (Sainte Chapelle)

โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บเรลิก เช่น มงกุฎหนามของพระเยซู ตัวโบสถ์สวยงามตามรูปแบบสถาปัตยกรรม Rayonnant ในยุคโกธิค มีกระจกสีสันและลวดลายสวยงาม หาชมได้ยาก มีหน้าต่างกุหลาบ ภาพวาด รูปปั้นที่บอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูและที่มาของเรลิก นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทรงคุณค่าและมีความหมายต่อผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์

แผนที่ : https://goo.gl/maps/1nABoBVEms185FR19 

เวลาเปิดปิด : 2 มกราคม – 31 มีนาคม และ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. 

1 เมษายน – 30 กันยายน เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 19.00 น.

ปิด 1 มกราคม, 1 พฤษภาคม และ 25 ธันวาคม

ซื้อบัตรเข้าชมโบสถ์แซงท์ชาแปลล์กับ Traveloka คลิกที่นี่ 


10. โบสถ์แอ็บบีเดอซีนอคค์ (Abbaye de Senanque)

โบสถ์แอ็บบีเดอซีนอคค์ตตั้งอยู่ในเมืองกอร์ด (Gordes) เป็นโบสถ์ที่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสวยเด่นบานสะพรั่งอยู่บริเวณหน้าโบสถ์ โดยดอกลาเวนเดอร์จะบานช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม ซึ่งเวลาเราถ่ายรูปคู่กับแฟนก็จะได้รูปสวยๆ ในทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีฉากหลังเป็นโบสถ์สวยๆ โรแมนติกมากทีเดียว 

แผนที่ : https://goo.gl/maps/mkaER7W57dvELba48 

เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.30 – 17.00 น.



เป็นอย่างไรกันบ้างคะ โรแมนติกเหมือนที่เราบอกไว้มั๊ยเอ่ย บอกเลยว่าของจริงนั้นโรแมนติกมากกว่าที่เห็น ซึ่งเราอยากให้เพื่อนๆ ไปสัมผัสด้วยตัวเองเป็นอย่างมาก ใครกังวลเรื่องตั๋วแพงก็แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสกับ Traveloka ได้เลย จะจองผ่านแอพฯ หรือจองผ่านเว็บก็ราคาดีต่อใจทั้งนั้น


เที่ยวปีนัง – หาดใหญ่ 5 วัน 4 คืน /ใช้เงิน 3,000 นั่งรถไฟไปเที่ยวปีนัง/ เที่ยวมาเลเซีย

มีเงิน 3,000 บาทนั่งรถไฟไปเที่ยวปีนัง มาเลเซีย แบบสบายใจ !!!
( สามพันนี่ไม่รวมค่าเดินทางที่เราต้องจองล่วงหน้าน๊า )
เที่ยวปีนัง – หาดใหญ่ 5 วัน 4 คืน ไม่ต้องใช้เงินมาก !!!
+++

มีงบน้อยก็เที่ยวปีนัง มาเลเซียได้ … มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ดูด้วยนะ !!!
ที่เขตเมืองเก่าอย่างจอร์จทาวน์ที่ขึ้นชื่อเรื่องเมือง Street Art ไปเดินเล่นถ่ายรูปชิวๆ หาของกิน นอนโฮสเทลแบบไม่แพง
+++
ทริปนี้จะเน้นนั่งรถไฟน๊า เริ่มต้นจากการนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปลงที่หาดใหญ่ นั่งรถนอนชั้นสอง ขบวนใหม่ของการรถไฟ
และนั่งรถไฟจากหาดใหญ่ไปที่บาดังเดซาร์ มาเลเซีย ต่อด้วยนั่งรถไฟความเร็วสูงไป บัตเตอร์เวิธ ข้ามเรือเฟอรี่ไปยังเกาะปีนังจุดหมายปลายทางของเรา !!!
+++
ชิวๆกับเมืองสตรีทอาร์ท สี่วันสองคืน ถ่ายรูปเก๋ๆตามถนน ตามซอย นอนโฮสเทลแบบราคาไม่แพง แล้วเดินหาของกินกลางคืน
+++
นั่งรถเมล์ไป ขึ้นชมวิวที่ปีนังฮิล เดินเล่นชมตามจุดต่างๆ หาของอร่อยๆกิน
+++
เดินทางกลับมาเที่ยวที่หาดใหญ่ต่ออีกหนึ่งคืน เดินชอปปิ้งที่ตลาดกิมหยง หาอะไรอร่อยๆกินใจกลางเมือง แล้วนอนโฮสเทลหาดใหญ่
+++
เดินทางกลับโดยเครื่องบิน ตั๋วโปรถูก 400 บาท ของ AirAsia บินตรงหาดใหญ่ – ดอนเมือง
+++

อ่านเพิ่มเติม เที่ยวปีนัง – หาดใหญ่ 5 วัน 4 คืน /ใช้เงิน 3,000 นั่งรถไฟไปเที่ยวปีนัง/ เที่ยวมาเลเซีย

เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง / Singapore Trip

📌#เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง Singapore Trip 3 วัน 2 คืน #ชี้เป้าคนอยากไปเที่ยว

– เที่ยวสิงคโปร์บินตรงจากดอนเมืองทั้งไปและกลับ ด้วย Thai Air Asia สู่สิงคโปร์ สนามบินชางงี

ขาไปให้เลือกไฟท์บินเช้าๆ และขากลับให้เลือกไฟท์เย็น

– เดินทางจากสนามบินเข้าเมือง และเที่ยวทั่วเมืองสิงคโปร์ในย่านต่างๆด้วยรถไฟฟ้า #ง่ายมาก ใช้รถไฟฟ้าอย่างเดียวเลย

– เลือกที่พักคืนแรก Hotel 81 ย่าน China Town ราคาประหยัดและของกินเยอะ เดินเล่นชิวๆ ใกล้ MRT

ห้องพักจะไม่ค่อยกว้างซึ่งเป็นเรื่องปกติของสิงคโปร์ 

– เดินเล่นชมวิวมาริน่าเบย์ Marina Bay, เมอร์ไลออน Merilon, มารินาเบย์แซนด์ Marina Bay Sands

– แวะเสี่ยงโชคที่ Marina Bay Sands Casino ได้ค่าขนมและช็อปปิ้ง

– ที่พักคืนที่สองสุดหรูย่านออชาร์ด ราคาพอเหมาะ Hotel Jen Orchradgateway ที่พักใกล้ MRT และเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง และอาหาร

ห้องพักมีน้ำดื่มให้เยอะมาก แนะนำว่าไม่ต้องซื้อน้ำดื่มมาก่อนเข้าพัก และของใช้ครบครัน

– ขากลับที่สนามบินชางงี แวะซื้อสินค้าปลอดภาษี น้ำหอมราคาถูก 

#หมายเหตุภาพถ่ายและข้อมูลเป็นทริปที่เคยไปมาสองปีแล้วน๊า คิดถึง และมีโอกาศเลยเอามาลงอีกที

 

#เที่ยววัวตายควายล้ม #สิงคโปร์ #Singapore

img_2663

เที่ยววังเวียง-เวียงจันทน์ /ประเทศลาว

ทริปลาว 3 คนวังเวียง-เวียงจันทน์กับเงิน 15,000 บาท (คนละ 5,000 บาทไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)

3 คืน 4 วัน

แถมเหลือเงินติดตัวกลับด้วยนะ   

osxlnjfe21dxFi7jy6j-o

 

เริ่มต้นจากการตั้งกลุ่มไปเที่ยวสมาชิกของเราเริ่มต้นตั้งเป้าหมายการไปเที่ยววังเวียง-เวียงจันทน์ไว้ที่ 4 คนแต่ไปๆมาๆก็มีชีวิตเหลือเพียงสามคน… อีกคนเทไปแล้ว !!!! และเป้าหมายถัดไปคือเกิดคำถามว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ ? เป็นคำตอบที่ตอบยากมากเลยเราตั้งงบไว้ที่ 5,000 บาทไทยถามว่าพอไหมไม่รู้เลยไปตายเอาดาบหน้านะ !!! ฮาๆแต่ที่ได้ข้อมูลจากการสำรวจคนที่ไปเที่ยวมาแล้วเขาบอกค่าครองชีพค่อนข้างสูงเอาเป็นว่ากินแบบประหยัดแล้วกันน๊า … T_T 

ขั้นตอนถัดมาคือการจองตั๋วค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่รวมกับเงินที่ไปเที่ยวนะ !!! เราก็ทำการหาตั๋วที่ถูกที่สุดซึ่งณเวลานั้นได้ตั๋ว THAI AIRASIA ขาไปราคาเพียง 560 บาทต่อคนและในส่วนของขากลับเราได้ THAI LION AIR ราคาอยู่ที่  1,125 บาทพร้อมสั่งอาหารล่วงหน้าเผื่อหิวไว้ด้วยราคาขากลับจะแพงหน่อยเพราะตรงวันหยุดแต่รวมแล้วไป-กลับราคาพอรับได้ตกอยู่รวมแล้วคนละ 1,685 บาทเดินทางจากสนามบินดอนเมืองสู่สนามบินอุดรธานีซึ่งเป็นสนามบินที่ใกล้ที่สุดในการที่จะเดินทางจากกทมไปสู่จังหวัดหนองคายซึ่งเป็นชายแดนติดต่อและสามารถข้ามไปยังประเทศลาวและเดินทางผ่านเวียงจันทน์ไปยังวังเวียง 

การจองที่พักเราจองผ่านเว็บ AGODA.COM และ BOOKING.COM เลือกชำระวันเข้าพักทั้งสามคืนเลย 

และเรามาเริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้กันเลยดีกว่า … 

osxloayhmjR6d0pTK0B-o.jpg

DAY 1 วันแรกการเดินทางกรุงเทพฯอุดรธานีเวียงจันทน์วังเวียง 

Processed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 presetosxlqh5pcewhZXGEl3a-o

การเดินทางเริ่มจากสนามบินดอนเมือง – อุดรธานีเราเลือกไฟท์เช้าเพื่อให้มีเวลาเยอะๆในการเดินทางหลังจากถึงสนามบินอุดรฯเราใช้บริการรถรีมูซีนสนามบินเพื่อไปยังสถานีขนส่งอุดรฯและต่อมาเราจะขึ้นรถโดยสารระหว่างประเทศ (รถลาว) อุดรฯ – วียงจันทน์เพื่อต่อรถไปวังเวียงในส่วนนี้ก็จะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของฝั่งไทย,ลาวกรอกเอกสารทำตามขั้นตอนและแลกเงินได้เลย osxlsefef038FmxwqXI-o

Processed with VSCO with c1 preset

Processed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 preset

เราถึงเวียงจันทน์ประมาณบ่าย 2 ซึ่งต่อสุดท้ายเรานั่งรถมินิบัสสายเวียงจันทน์ – วังเวียงเพื่อไปวังเวียงนั่นเองรถจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงกลางทางจะแวะให้เข้าห้องน้ำ 1 ครั้งห้องน้ำไม่ฟรีต้องเสียเงิน 1,000 กีบและสามารถซื้อของกินได้ด้วยรถจะถึงประมาณเย็นๆพอไปถึงวังเวียงเราลงรถแล้วเราหาซื้อซิม NET เพื่อไว้ใช้จะมีร้านมือถือเล็กๆขายเหมือนที่ไทยเลยที่นี่มีสัญญาณ 3G ที่เป็นเครือข่ายของลาวไม่พลาดทุกการติดต่อ

Processed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 preset

และเราก็เดินหาที่พักชื่อ NICE VIEW GUESTHOUSE เดินไปตามแผนที่ได้เลยโรงแรมที่เราจองไว้จะติดริมแม่น้ำซองที่จะเห็นวิวภูเขาสวยเลยทีเดียวไม่มีโรงแรมอื่นบังวิวที่โรงแรมก็มี WIFI ฟรีเหมือนกัน

Processed with VSCO with c1 preset

วังเวียงเป็นเมืองเล็กๆที่สามารถเดินได้ทุกซอกทุกมุมถ้าไปถึงตอนเย็นๆจะเห็นบอลลูนลอยอยู่บนท้องฟ้าคาดว่าน่าจะทุกวันถ้ามีคนใช้บริการเป็นบรรยากาศที่ดีเลยทีเดียวเราเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนอาบน้ำเอนหลังกันสักพักก่อนที่จะไปหาอะไรกินกัน 

Processed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 presetProcessed with VSCO with c1 preset

อาหารเย็นเราเลือกกินบะหมี่ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวจะคล้ายบ้านเราเลยแต่ลักษณะชามจะใหญ่กว่าปริมาณมากกว่าไม่มีน้ำให้ดื่มฟรีมีเครื่องปรุงให้แต่ไม่ครบเหมือนบ้านเราหลังจากทานเสร็จถัดไปในซอยเดียวกันจะเป็นร้านเหล้าสุดฮิตที่ใครมาวังเวียงต้องห้ามพลาดนั่นคือซากุระบาร์ SAKURA BAR วันที่เราไปมีเหล้าให้ดื่มฟรีด้วยนะถือว่าโอเคเลยเปิดเพลงอัพเดตเลยทีเดียวและชาวต่างชาติส่วนมากก็จะเป็นฝรั่งและเกาหลีใครมาวังเวียงก็อย่าลืมมาตื๊ดๆกันน่ะ  แวะมานั่งชิวๆหรือแด๊นซ์ๆแล้วค่อยกลับไปนอนพักผ่อนน๊า

ค่าใช้จ่าย DAY1 ; ค่ารถรีมูซีนสนามบิน 200 บาท / ค่าอาหารเช้า 165 บาท / ค่ารถอุดร – เวียงจันทน์ 240 บาท / ค่าผ่านแดนลาว 15 บาทค่ารถเวียงจันทน์ – วังเวียง 300.000 กีบ / ค่ากินระหว่างทาง 60.000 กีบ / ค่าซิมเน็ตลาว 30.000 กีบ / ค่าโรงแรม 200.000 กีบ / ค่าอาหารเย็น 70.000 กีบค่าเหล้า 210.000 กีบ

รวมเงินไทย 620 บาท
รวมเงินลาว  870.000 กีบ หรือ 3,669 บาทไทย
รวมค่าใช้จ่ายวันแรกทั้งหมด 4,289 บาท

อ่านเพิ่มเติม เที่ยววังเวียง-เวียงจันทน์ /ประเทศลาว